6 นิสัยการขับขี่ที่ทำให้รถยนต์เสื่อมสภาพ (ไว)

6 นิสัยการขับขี่ที่ทำให้รถยนต์เสื่อมสภาพ (ไว)

02 ต.ค. 2564   ผู้เข้าชม 1,228

รถยนต์ พาหนะคู่ใจของใครหลาย ๆ คน ถือเป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก แต่ทว่าด้วยต้นทุนและค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างสูงแล้ว ทำให้เรายิ่งต้องดูแลรักษารถยนต์ของเราให้เป็นอย่างดี เพราะหากรถเสื่อมสภาพไวก่อนเวลาอันสมควรคงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ 

 

6 พฤติกรรมที่ยิ่งทำให้ รถยิ่งเสื่อมสภาพ

คุณอาจเคยได้ยินคนรอบข้าง มักเตือนว่า ต้องอุ่นเครื่องยนต์ก่อนใช้งาน ห้ามออกรถทันทีด้วยความเร็วสูง ไม่ควรปล่อยให้น้ำมันแห้งคาถัง หรือกระทั่งอย่าบรรทุกของหนักจนเกินไป ซึ่งพฤติกรรมการใช้รถยนต์ดังกล่าว เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ พฤติกรรมใดจะส่งผลให้รถยนต์ของคุณเสื่อมสภาพลง แล้วพฤติกรรมใดที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานรถยนต์ของคุณให้มีอายุการใช้งานที่นานออกไป แพนด้า สตาร์ออยล์ เรามีคำอธิบาย

 

1. ไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามเวลาที่กำหนด

คุณทราบหรือไม่ว่า น้ำมันหล่อลื่น หรือ น้ำมันเครื่อง เป็นส่วนประกอบสำคัญต่อระบบการทำงานของเครื่องยนต์ โดยน้ำมันหล่อลื่นจะมีหน้าที่หลักในการช่วยลดแรงฝืดหรือแรงเสียดทานของชิ้นส่วนต่าง ๆ ลดการเกิดสิ่งสกปรกที่เกิดจากการเผาไหม้ ช่วยอุดรอยรั่วในห้องเผาไหม้ และยังเพิ่มแรงอัดให้กับเครื่องยนต์ 

ดังนั้นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องให้ตรงตามระยะเวลาที่กำหนดจึงทำให้นอกจากเครื่องยนต์ของคุณจะสะอาดแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน และลดการสึกหรอของชิ้นส่วนต่าง ๆในเครื่องยนต์ได้อีกด้วย

 

2. บรรทุกของหนักโดยไม่จำเป็น

การบรรทุกสิ่งของที่ไม่จำเป็นไว้บนรถยนต์ของคุณมากจนเกินไป ทำให้น้ำหนักของรถเพิ่มขึ้น นั่นหมายความถึงเครื่องยนต์ต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อแบกรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นตาม นอกจากจะเป็นการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยใช่เหตุแล้ว ยังส่งผลต่อความสามารถในการควบคุมสมดลในขณะขับขี่ รวมถึงทำให้การเร่งเครื่องและการใช้งานระบบเบรกทำได้ยากมากขึ้น ดังนั้นจึงควรบรรทุกแต่สิ่งของที่จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงการทำงานหนัก และลดความเสี่ยงที่จะทำให้เครื่องยนต์สึกหรออีกด้วย

 

3. ไม่อุ่นเครื่องยนต์ก่อนขับขี่

เคยเจออาการเหล่านี้ไหม? หลังจากที่คุณจอดรถไว้เป็นเวลานานหรือข้ามคืน อุณหภูมิของเครื่องยนต์จะเย็นลง น้ำมันเครื่องที่หล่อเลี้ยงชิ้นส่วนต่าง ๆ จะไหลกลับไปรวมกันที่อ่างเก็บ หากมีการเริ่มใช้งานใหม่ เครื่องยนต์จะค่อย ๆ สูบน้ำมันหล่อลื่นเหล่านั้นกลับมาใช้งานอีกครั้ง

ดังนั้นหากคุณเร่งเครื่องแรง ๆ หรือใช้ความเร็วในการขับขี่ในครั้งแรก (หลังสตาร์ทเครื่องยนต์) จะทำให้น้ำมันหล่อลื่นถูกสูบไปใช้งานไม่ทัน และส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ของคุณในระยะยาว

การปฏิบัติที่ถูกต้อง คือ ควรอุ่นเครื่องยนต์ก่อนการใช้งานและควรขับขี่อย่างช้า ๆ และนุ่มนวลในช่วงแรก เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องยนต์และน้ำมันเครื่องให้อยู่ในอุณหภูมิที่สามารถทำงานได้ปกติ

 

4. การเหยียบคันเร่งจนมิด

คุณเคยมีพฤติกรรมการขับขี่เช่นนี้บ้างหรือไม่ เหยียบคันเร่งลงสุดเพื่อออกตัว เร่งความเร็วเครื่องแรง ๆ เพื่อแซง และ เบรกกระทันหันบ่อย ๆ จากการออกตัวระยะสั้น พฤติกรรมการขับขี่เหล่านี้ นอกจากจะสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว ยังส่งผลเสียโดยตรงต่อระบบส่งกำลังของเครื่องยนต์ให้ต้องทำงานหนักมากขึ้น ชุดฟันเฟืองต่าง ๆ ในระบบเกียร์ก็ต้องรับภาระหนักจากแรงบิดที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งทำให้ระบบเบรกเสื่อมเร็วจากการเหยียบเบรกบ่อยครั้ง ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการขับขี่ดังกล่าวเพื่อช่วยถนอมอายุการใช้งานรถของคุณ

 

5. การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าขณะดับเครื่องยนต์

รู้หรือไม่? หนึ่งในอาการแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม คือ การใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์ขณะเครื่องยนต์ดับอยู่เพื่อความสะดวกสบาย การกระทำใดบ้างที่จะส่งผลเสียต่อรถของคุณ 

การเปิดระบบไฟฟ้าในรถยนต์ทิ้งไว้ในขณะดับเครื่องยนต์ เช่น การเปิดเครื่องเสียงรถยนต์ แอร์ ไฟในห้องโดยสาร หรือการชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นการใช้งานแบตเตอรี่ที่เกินความจำเป็น ส่งผลให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม ยิ่งไปกว่านั้นอาจทำให้ไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้อีก เนื่องจากแบตเตอรี่ถูกดึงไฟไปใช้งานจนหมดแล้ว

 

6. ปล่อยให้น้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ในระดับต่ำเสมอ

การปล่อยน้ำมันเชื้อเพลิงให้เหลือค้างในถังเพียงเล็กน้อย ไม่ส่งผลดีต่อรถของคุณอย่างแน่นอน เนื่องจากจะทำให้ตัวปั๊มภายในหรือปั๊มติ๊กทำงานหนัก ซึ่งปกติแล้วปั้มติ๊กจะทำหน้าที่ดูดน้ำมันเชื้อเพลิงจากตัวถังไปสู่เครื่องยนต์ หากไม่มีน้ำมันมาหล่อเลี้ยงเพื่อระบายความร้อนแล้ว เครื่องยนต์ก็จะทำงานอยู่ตลอดเวลา และส่งผลให้มอเตอร์พังในที่สุด ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยให้น้ำมันเชื้อเพลิงใกล้หมดถังแล้วค่อยเติม


เห็นแล้วใช่ไหมว่า พฤติกรรมการใช้รถที่กล่าวมานี้ สามารถส่งผลเสียในระยะยาวต่อรถของคุณได้โดยที่คุณเองอาจไม่รู้ตัว ฉะนั้นการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมข้างต้นที่อาจส่งผลเสียต่อรถยนต์ของคุณ รวมถึงไม่มองข้ามสิ่งสำคัญเล็กน้อยในการใช้รถยนต์ แพนด้า สตาร์ออยล์เชื่อว่า จะเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานรถคู่ใจให้อยู่กับคุณได้อีกยาวนาน

 


เกร็ดความรู้ที่เกี่ยวข้อง

สีของน้ำมันเครื่อง สามารถบอกสุขภาพเครื่องยนต์ได้จริงหรือ?
29 ธ.ค. 2564

สีของน้ำมันเครื่อง สามารถบอกสุขภาพเครื่องยนต์ได้จริงหรือ?

สาระน่ารู้