เทียบกันชัด ๆ ข้อดี - ข้อเสีย รถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง VS รถยนต์พลังงานไฟฟ้า

เทียบกันชัด ๆ ข้อดี - ข้อเสีย รถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง VS รถยนต์พลังงานไฟฟ้า

25 พ.ย. 2564   ผู้เข้าชม 37,834

ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมถือเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนความก้าวหน้า ความล้ำสมัย ยานพาหนะถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทุกบ้านขาดไม่ได้ ด้วยเทคโนโลยีที่เข้ามา ทำให้รถยนต์มีการปรับแต่งให้ดูทันสมัย ดูก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อพัฒนาโดยอิงกับกระแสการลดโลกร้อน รักษ์โลก จึงออกมาเป็นเทคโนโลยี รถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ทางเลือกใหม่ ที่ได้รับความนิยม และมีกระแสตอบรับกลับอย่างล้นหลาม เพราะช่วยลดมลพิษ และประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า

ซึ่งก็มีอีกหลายคนที่ยังลังเลว่า จะซื้อรถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง หรือรถยนต์ไฟฟ้าดี ไม่ต้องกังวลกันอีกต่อไป เพราะในบทความนี้ เราจะมาเทียบความแตกต่างให้เห็นกันชัด ๆ ว่า ข้อดี - ข้อเสีย ของ รถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง และ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า แตกต่างกันอย่างไร

รถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง รถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง

รถยนต์ที่ใช้กันโดยทั่วไป ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ตามความต้องการของผู้ขับขี่

ข้อดี

  • สะดวกสบายในการขับขี่ระยะทางไกล มีสถานีให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่หลายจุด น้ำมันใกล้หมดเมื่อไหร่ หาที่เติมน้ำมันได้ง่าย ขึ้นเหนือ ล่องใต้ได้สบายมาก
  • เมื่ออะไหล่เกิดการชำรุดหรือสึกหรอ มีให้เลือกเปลี่ยนได้หลากหลายยี่ห้อ หลากหลายราคา

ข้อเสีย

  • เครื่องยนต์แต่ละรุ่น แต่ละขนาด มีอัตราในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่แตกต่างกัน และยิ่งถ้าเป็นเครื่องยนต์เก่าหากดูแลรักษาไม่ดีมีอัตราในการเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสูง และปล่อยก๊าซไอเสียส่งผลให้เกิดมลพิษตามมา 
  • เครื่องยนต์รุ่นเก่า อาจเกิดปัญหาเครื่องกระชากขณะเร่งเครื่อง และส่งผลให้เกิดเสียงดัง

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า

 

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถยนต์พลังงานไฟฟ้า

เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ไม่ใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิง

ข้อดี 

  • ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ที่บ้าน หรือสถานีบริการน้ำมันที่ให้บริการ
  • ประหยัดค่าน้ำมัน หากเทียบให้เห็นภาพ รถยนต์ไฟฟ้าชาร์จสูงสุดที่ 11 kW แบตเตอรี่จุได้ 60 kW ใน 1 ชั่วโมง จะสามารถชาร์จได้ 11 kW ถ้าต้องการชาร์จเต็ม 60 kW ต้องใช้เวลาถึง 5-6 ชั่วโมง
  • สมมติว่า ไฟฟ้า 1 หน่วย = 1 kW หน่วยละ 3 บาท ชาร์จไฟ 6 ชั่วโมง จะเท่ากับ 11x3x6 = 198 บาท ซึ่งสามารถขับได้ 300-350 กิโลเมตร ประมาณ 1.5 บาท/กิโลเมตร ซึ่งราคาของน้ำมันจะอยู่ที่ 3-5 บาท/กิโลเมตร เมื่อเทียบดูแล้ว การชาร์จด้วยไฟฟ้า จะประหยัดเงินได้มากกว่า
  • ลดก๊าซพิษ และไอเสียจากเครื่องยนต์ เพราะขับเคลื่อนด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ
  • ใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้การขับขี่เบา เงียบ ขับได้สบาย ๆ ไม่มีเสียงเครื่องยนต์มารบกวน
  • ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน และออกตัวได้ดีกว่าเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง

ข้อเสีย

  • สถานีให้บริการชาร์จไฟฟ้า มีจุดให้บริการยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ไม่สะดวกสบายหากต้องเดินทางในระยะไกล
  • ใช้เวลาในการชาร์จค่อนข้างนานพอสมควรขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่
  • ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าค่อนข้างสูง หากเทียบกับรถยนต์ในท้องตลาดทั่วไป เพราะมาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย จึงมีราคาที่สูงขึ้นไปด้วย
  • ระยะการขับสั้นกว่า ต้องดูว่าขนาดความจุของแบตเตอรี่นั้นเพียงพอต่อการเดินทางหรือไม่ ส่วนมากความจุแบตเตอรี่จะอยู่ที่ 60-90 kW ซึ่งจะวิ่งได้สูงสุด 300-600 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง ควรคำนวณระยะการเดินทางให้ดี หากต้องขับขี่ในระยะไกล
  • เป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ จึงมีอะไหล่ให้เลือกเปลี่ยนไม่หลากหลาย และมีราคาที่ค่อนข้างสูง 

 

ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิง หรือรถยนต์ไฟฟ้า ต่างก็มีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับ การใช้งานของผู้ใช้รถนั้นเน้นจุดใดเป็นสำคัญ หากเน้นการขับขี่ในระยะทางใกล้ ๆ ประหยัดค่าใช้จ่าย รถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ แต่หากเน้นการขับขี่ทางไกล และคำนึงถึงความสะดวกรวดเร็ว รถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิงยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า และคุ้มค่ามากกว่า


เกร็ดความรู้ที่เกี่ยวข้อง

พร้อมหรือยัง? เผยทุกขั้นตอนการใช้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า PEA VOLTA สำหรับผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV)
01 ธ.ค. 2564

พร้อมหรือยัง? เผยทุกขั้นตอนการใช้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า PEA VOLTA สำหรับผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV)

สาระน่ารู้
แนะนำ! น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ยี่ห้อไหนดี ที่คุณไม่ควรพลาด
26 ก.พ. 2565

แนะนำ! น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ยี่ห้อไหนดี ที่คุณไม่ควรพลาด

สาระน่ารู้
5 เทคนิคลดต้นทุน ธุรกิจโลจิสติกส์ในยุคโควิด-19
04 มี.ค. 2565

5 เทคนิคลดต้นทุน ธุรกิจโลจิสติกส์ในยุคโควิด-19

สาระน่ารู้