หากพูดถึงเครื่องหมายบนหน้าปัดรถยนต์นั้นก็มีให้เห็นกันมากมาย ตั้งแต่สัญลักษณ์ที่อยู่ภายในรถ ห้องเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ยางรถยนต์ แต่วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับสัญลักษณ์หน้าปัดรถยนต์ที่หลายคนมองเป็นประจำขณะขับรถ
ใครรู้บ้างว่า สัญลักษณ์หน้าปัดรถยนต์ นั้นบอกอะไรเราบ้าง? ผู้ขับขี่หลายคนอาจยังสงสัยอยู่ว่าบนหน้าปัดรถยนต์นั้นมีสัญลักษณ์ หรือ เครื่องหมายแจ้งเตือนต่าง ๆ เยอะแยะเต็มไปหมด รวมถึงสีไฟที่ยังแตกต่างกันอีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่าสัญลักษณ์ใดบ้างที่เราควรให้ความสำคัญและไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด
หลายคนอาจคุ้นเคยกับสัญลักษณ์บนหน้าปัดรถยนต์อยู่ไม่กี่อย่าง เชื่อว่าสิ่งที่ผู้ขับขี่มักดูกันเป็นประจำคงจะหนีไม่พ้น ตัวแจ้งระดับน้ำมันในถัง และ เข็มไมล์ความเร็ว เท่านั้น เราจึงอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับสัญลักษณ์ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์กันให้มากขึ้นเพื่อความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้นต่อตัวเราเองและผู้ที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกันอีกด้วย
เรามาเริ่มกันที่ไฟสีต่าง ๆ ที่อยู่บนสัญลักษณ์ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์กันก่อน
แล้ว สัญลักษณ์ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ ที่สำคัญเหล่านี้บอกอะไรเราได้บ้าง? มาเริ่มกันที่
เป็นการแจ้งเตือนถึงความผิดปกติของระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิภายในของเครื่องยนต์สูงจนอาจจะเกิดการ Over Heat ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายให้กับเครื่องยนต์เป็นอย่างมาก ที่สำคัญไปกว่านั้น หากมีสัญลักษณ์ไฟเตือนสีแดงนี้แจ้งเตือนขึ้นมาเมื่อไหร่ ควรรีบหยุดรถและดับเครื่องยนต์ทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์เสียหายฉับพลัน
เบื้องต้นแนะนำให้รอจนเครื่องยนต์เย็นตัวลงแล้วจึงเช็คระดับน้ำในหม้อน้ำก่อนว่าแห้งหรือไม่ หากแห้ง แนะนำให้หาน้ำเติมก่อนที่จะทำการขับขี่อีกครั้ง
หากสังเกตดูดี ๆ สัญลักษณ์รูปทรงวงกลมบนตักคนที่เราเห็นทุกครั้งก่อนสตาร์ทรถนั่นเอง ปกติสัญญาณไฟเตือนนี้จะแสดงขึ้นมาหลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์และจะค้างอยู่ประมาณ 5 วินาที แต่หากพบว่าไฟเตือนยังคงค้างอยู่หลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์ไปแล้ว นั่นให้พึงระวังทันทีว่าระบบถุงลมนิรภัยอาจขัดข้อง ควรรีบนำรถเข้าเช็คทันทีเพื่อตรวจสอบการทำงานของถุงลมนิรภัย เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินอาจส่งผลให้ถุงลมนิรภัยไม่ทำงานได้
สัญลักษณ์ไฟรูปตะเกียงมีน้ำมันหยดนี้ปกติจะปรากฎขึ้นทันทีหลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์ และดับลงเมื่อเครื่องยนต์ทำงานปกติ หากแต่ไฟแจ้งเตือนดังกล่าวยังคงค้างอยู่ หรือ ปรากฎขึ้นมาระหว่างขับขี่รถยนต์ ควรจอดรถและดับเครื่องยนต์ทันที จากนั้นรอประมาณ 5 นาที เพื่อให้น้ำมันไหลกลับลงไปในอ่างน้ำมันเครื่อง แล้วลองตรวจสอบดูระดับน้ำมันเครื่องอีกครั้ง โดยเช็คได้จากก้านวัดน้ำมันเครื่อง หากพบว่าอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป ควรเติมน้ำมันเครื่องลงไปอย่างน้อย 1 ลิตร หรือจนกว่าสัญลักษณ์ไฟเตือนดังกล่าวจะดับลง หากยังพบว่าสัญลักษณ์ไฟเตือนยังติดอยู่แนะนำให้นำรถเข้าตรวจเช็คกับศูนย์บริการ เพราะอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น การั่วซึม หรือการอุดตันของน้ำมันเครื่องก็เป็นได้
สัญลักษณ์ไฟเตือนรูปทรงแบตเตอรี่ หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเป็นเพราะแบตเตอรี่เสื่อม แต่แท้จริงแล้วกลับหมายถึง การทำงานของระบบไดร์ชาร์จรถยนต์มีความผิดปกติ เช่น ไดร์ชาร์จเสีย ไดร์ชาร์จไม่จ่ายไฟเข้าที่เก็บแบตเตอรี่ หรือไม่จ่ายไฟเข้าระบบต่าง ๆของรถยนต์ ซึ่งมีผลต่ออุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้กระแสไฟในการควบคุมการทำงาน
สำหรับสัญลักษณ์ไฟเตือนระบบเบรค ABS จะดับลงเมื่อเครื่องยนต์ติดแล้ว แต่หากไฟเตือนยังคงปรากฎอยู่ แสดงถึงระบบเบรคอาจมีปัญหา แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะเครื่องยนต์ยังคงใช้งานได้ปกติ หากแต่ในกรณีที่รถเกิดการเบรคแบบกะทันหัน ระบบเบรค ABS อาจจะไม่ทำงาน ซึ่งอาจส่งผลให้รถเสียการทรงตัวไถลไปตามพื้นถนน เนื่องจากระบบเบรค ABS คือ ระบบที่ช่วยไม่ให้ล้อล็อคขณะที่เบรคกะทันหันนั่นเอง ทางที่ดีควรนำรถยนต์เข้าตรวจเช็คเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ของตัวท่านเอง
บ่งบอกถึงความผิดปกติของเครื่องยนต์และอาจโยงไปถึงความผิดปกติส่วนอื่น ๆของระบบการทำงานของระบบภายในเครื่องยนต์ ดังนั้นควรหมั่นนำรถยนต์เข้าตรวจเช็คเพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการขับรถที่ใช้ความเร็วสูง
เป็นการแจ้งเตือนว่าน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ แต่อย่าเพิ่งกังวลใจไป! เพราะสัญลักษณ์ที่ขึ้นเตือนนั้นแสดงให้เห็นว่า โดยเฉลี่ยแล้วจะเหลือน้ำมันในถังอีกประมาณ 10-15% ของปริมาณบรรจุถังและส่วนใหญ่รถยนต์จะยังสามารถวิ่งได้อีก 40-50 กิโลเมตร และคุณเคยสังเกตไหมว่า สัญลักษณ์สายหัวจ่ายน้ำมันข้างถังนั้น ยังบ่งบอกถึงตำแหน่งของฝาถังน้ำมันของตัวรถคุณว่าอยู่ฝั่งไหนได้อีกด้วย
ซึ่งสัญลักษณ์ทั้งหมดนี้คือ สัญลักษณ์ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์เบื้องต้นที่ผู้ขับขี่รถยนต์ไม่ควรมองข้าม และสิ่งสำคัญที่สุด ควรนำรถยนต์เข้าเช็คกับศูนย์บริการตามระยะที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่ของท่านเองและผู้ร่วมทางของท่าน