หม้อน้ำแห้ง เติมน้ำเปล่าแทนน้ำยาหล่อเย็นได้หรือไม่?

ทันทีที่คุณสตาร์ทรถยนต์ นั่นหมายถึงเครื่องยนต์เริ่มทำงาน และเกิดการจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ทันที  เพื่อสร้างพลังงานในการขับเคลื่อนรถยนต์ ซึ่งโดยปกติแล้วระบบระบายความร้อนนั้นจะทำงานไปพร้อม ๆ กับเครื่องยนต์ เพราะความร้อนที่เกิดจากการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ จะถูกนำไปใช้เป็นพลังงานเพียงบางส่วนเท่านั้น ส่วนความร้อนที่เหลือจะถูกระบายออกทางเครื่องยนต์และระบบหล่อเย็น ซึ่งจะใช้น้ำในการหมุนเวียนไหลผ่านตามท่อต่าง ๆ ของเครื่องยนต์เพื่อระบายความร้อน

เมื่อเครื่องยนต์ร้อนจัด น้ำที่อยู่ในระบบหล่อเย็นจะเกิดการระเหยอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงจุดเดือด 100 องศาเซลเซียส จึงจำเป็นต้องมีตัวช่วยสำคัญ ที่ช่วยให้จุดเดือดของน้ำสูงขึ้น เพื่อให้น้ำที่อยู่ภายในหม้อน้ำเดือดช้าลง ซึ่งตัวช่วยนั้นก็คือ น้ำยาหล่อเย็น นั่นเอง

รู้จัก น้ำยาหล่อเย็น (Coolant) หรือน้ำยาเติมหม้อน้ำ

วันนี้แพนด้า สตาร์ ออยล์ จะพาทุกคนไปรู้จัก ความสำคัญของน้ำยาหล่อเย็นหรือที่หลายคนคุ้นหูกันคือ พร้อมไขข้อสงสัยที่ว่า เราสามารถใช้ น้ำเปล่าเติมหม้อน้ำ แทนได้จริงไหม แล้วแบบไหนที่ถูกต้องและดีกว่ากัน

น้ำยาหล่อเย็นคืออะไร ทำงานอย่างไร?

น้ำยาหล่อเย็น (Coolant) หรือ น้ำยาเติมหม้อน้ำ คือ ส่วนผสมของน้ำ หัวเชื้อป้องกันสนิม สารหล่อเย็น เเละสี เช่น สีฟ้า แดง เขียว เหลือง เพื่อให้เห็นระดับน้ำได้ชัดเจนและสังเกตได้ง่ายเมื่อเกิดการรั่วซึม โดยน้ำยาหล่อเย็นที่ใช้เติมลงไปในหม้อน้ำรถยนต์ ไม่ได้ทำหน้าที่ในการระบายความร้อนเพียงอย่างเดียว แต่เป็นตัวช่วยที่สำคัญที่ทำให้ จุดเดือดของน้ำที่ผสมน้ำยาหล่อเย็นสูงขึ้น ช่วยให้น้ำที่อยู่ในหม้อน้ำเดือดช้าลง (เนื่องจากจุดเดือดอุณหภูมิของน้ำเปล่าจะอยู่ที่ 100 องศาเซลเซียส แต่สำหรับน้ำยาหล่อเย็นจะสูงกว่านั้น บางชนิดสูงถึง 120-150 องศา)

เป็นน้ำที่ใช้สำหรับระบบระบายความร้อน เพื่อรักษาระดับอุณหภูมิของเครื่องยนต์ไม่ให้ร้อนจนเกินไป อีกทั้งยังป้องกันสนิมซึ่งเป็นสาเหตุของการผุกร่อน ช่วยไม่ให้ตะกอนไปอุดตันในรังผึ้งของหม้อน้ำ แถมยังช่วยหล่อลื่นปั๊มน้ำ ซีลปั๊มน้ำ และวาล์วน้ำอีกด้วย

น้ำยาหล่อเย็นใช้งานอย่างไร?

ปัจจุบันน้ำยาหล่อเย็น มีให้เลือกใช้งานอยู่ 2 ประเภท คือ

1. น้ำยาหล่อเย็นแบบผสมเสร็จ

เป็นน้ำยาหล่อเย็นชนิดที่สามารถใช้เติมเข้าหม้อน้ำได้เลย เพราะเป็นประเภทที่ผสมมาแบบสำเร็จรูปพร้อมใช้งาน

ข้อดี : เหมาะกับทั้งผู้ขับขี่มือใหม่และมือเก่า เพราะใช้งานง่าย และสามารถพกติดรถไว้ เมื่อถึงคราวจำเป็นต้องเติมน้ำมันหล่อเย็นในกรณีฉุกเฉินก็สามารถเติมได้เลย ไม่ต้องยุ่งยากในการผสมน้ำก่อนใช้

2. น้ำยาหล่อเย็นแบบเข้มข้น

เป็นน้ำยาหล่อเย็นชนิดที่ต้องผสมน้ำในอัตราส่วนที่ถูกเหมาะสม ซึ่งมีระบุไว้ข้างบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้น้ำยาเจือจางก่อนใส่ลงในหม้อน้ำ ส่วนใหญ่อัตราส่วนที่ใช้ในการผสมจะอยู่ที่ 50:50 เช่น น้ำเปล่า 1 ลิตร ต่อ น้ำยาหล่อเย็น 1 ลิตร

ข้อดี : ประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะน้ำยาหล่อเย็นแบบเข้มข้นหนึ่งขวดผสมกับน้ำสามารถใช้เติมหม้อน้ำได้จำนวนหลายครั้ง อย่างไรก็ตามควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนใช้งาน เพราะหากผสมเข้มข้นจนเกินไป อาจทำให้กัดกร่อนหม้อน้ำได้

แล้วถ้า หม้อน้ำแห้ง เติมน้ำเปล่าแทนน้ำยาหล่อเย็นได้ไหม?

เป็นคำถามที่ผู้ขับขี่หลายคนสงสัยมาโดยตลอด สำหรับกรณีฉุกเฉินที่ หม้อน้ำแห้ง หม้อน้ำรั่ว สามารถเติมน้ำเปล่าแทนน้ำยาหล่อเย็นได้เป็นการชั่วคราว เพื่อให้สามารถนำรถเข้าอู่ต่อไปได้ และควรเป็นน้ำที่สะอาด เช่น น้ำดื่ม น้ำกรอง

แต่ในทางปฎิบัติแล้ว ผู้ขับขี่ควรมีน้ำยาหล่อเย็นพกติดรถไปด้วยกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เพราะหากเติมน้ำเปล่าโดยไม่ใช้น้ำยาหล่อเย็นเลย จะส่งผลทำให้ ประสิทธิภาพของระบบระบายความร้อนทำงานไม่เต็มที่ เนื่องจากน้ำเปล่ามีจุดเดือดที่ 100 องศาเซลเซียส เมื่อเกิดความร้อนถึงจุดเดือด น้ำจะกลายเป็นไอน้ำ ส่งให้การระบายความร้อนได้ไม่เต็มที่ และอาจทำให้เกิดคราบสนิม และคราบตะกรันภายในระบบหล่อเย็น จากสารปนเปื้อนในน้ำเปล่าอีกด้วย

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ คงสรุปได้แล้วว่า การเติมน้ำยาหล่อเย็นย่อมดีกว่าการเติมน้ำเปล่าเฉย ๆ แน่นอน เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มจุดเดือดของน้ำที่ใช้ในการระบายความร้อนแล้ว น้ำยาหล่อเย็นยังมีคุณสมบัติช่วยป้องกันการเกิด สนิม ตะกรัน ตะกอน และช่วยไม่ให้มีการอุดตันในรังผึ้งของหม้อน้ำได้อีกด้วย  ในส่วนของระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็น ขึ้นอยู่กับรถยนต์แต่ละรุ่นหรือประเภทน้ำยาหล่อเย็นที่ใช้ด้วย เช่น บางรุ่นกำหนดไว้ทุก ๆ 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร และบางรุ่นกำหนดไว้ที่ 100,000 – 200,000 กิโลเมตร  เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์

หากคุณสนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือขายน้ำมันหล่อลื่น แพนด้า สตาร์ ออยล์ มีผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค คุณภาพสูงหลากหลายยี่ห้อในราคาส่ง สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินทุกประเภทจำหน่าย ทั่วพื้นที่จังหวัดภาคเหนือทั้ง เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์