4 ประเภท รถยนต์ไฟฟ้าที่คุณควรรู้จักก่อนตัดสินใจซื้อ!

4 ประเภท รถยนต์ไฟฟ้าที่คุณควรรู้จักก่อนตัดสินใจซื้อ!

24 ก.พ. 2565   ผู้เข้าชม 15,411

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ากำลังมาแรงมากกับ รถ EV หรือ รถยนต์ไฟฟ้า คือหนึ่งในนวัตกรรมยานยนต์ที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อทดแทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน และอีกหนึ่งวัตถุประสงค์หลักที่สำคัญเลยก็คือ ช่วยลดมลพิษทางอากาศ รวมถึงลดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในระดับโลก ซึ่งนับได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนที่สำคัญในการคิดค้น พัฒนาและผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ได้รถยนต์ประเภท Zero Emission Vehicle หรือ ZEV คือ รถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มีการปล่อยไอเสียออกมาจากตัวรถยนต์เลย

รถEV

เชื่อว่าอีกไปถึง 10 ปี รถยนต์ไฟฟ้าจะกลายมาเป็นยานพาหนะหลักที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก และสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มิได้เกิดขึ้นเพียงแค่กับธุรกิจยานยนต์เท่านั้น แต่ในหลายประเทศในแถบยุโรปเริ่มมีการเข้มงวดและจริงจัง เพื่อส่งเสริมให้พลเมืองหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ ประเทศนอร์เวย์ ที่มียอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าสูงสุดในยุโรป และทางรัฐบาลนอร์เวย์ยังตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในปี พ.ศ. 2568 รถยนต์ทุกคันที่ใช้ในประเทศจะต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด

หรือแม้แต่ในประเทศอังกฤษเอง ที่ให้ประชาชนสามารถชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้าได้จากเสาไฟฟ้าตามท้องถนนที่มีการจัดเตรียมไว้ให้ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน และเป็นการกระตุ้นให้พลเมืองของเค้าหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นเรื่อย ๆ 

รู้จัก รถยนต์ไฟฟ้า EV ทางเลือกใหม่ของการเดินทางสำหรับคนยุคใหม่

รถยนต์ไฟฟ้า

เชื่อว่ายังมีหลายคนที่ยังไม่คุ้นชินกับรถยนต์ไฟฟ้ากันสักเท่าไหร่ หรือหลายคนอาจไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ารถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร บทความนี้ แพนด้า สตาร์ ออยล์ จะพาทุกคนมาพบกับคำตอบของทุกคำถามเพื่อคลายข้อสงสัยของคุณก่อนตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

รถยนต์ไฟฟ้า คือ รถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากไฟฟ้า 100 % โดยพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในแบตเตอรี่ เมื่อรถยนต์ไฟฟ้าไม่มีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นตัวจุดระเบิดของเครื่องยนต์ จึงส่งผลให้ไม่มีไอเสียหรือมลพิษ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้มากถึง 3 เท่าหากเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภทตามระบบการใช้งาน ดังนี้

รถยนต์ไฟฟ้าพลังงาน 2 ระบบ “ประหยัดน้ำมัน ลดมลพิษ”

รถEV

1. รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด | Hybrid Electric Vehicle (HEV)

รูปแบบการทำงานของรถยนต์ประเภทนี้จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์สันดาปและพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากแบตเตอรี่ โดยระบบของรถยนต์จะสลับการใช้งานระหว่างเครื่องยนต์และแบตเตอรี่อัตโนมัติ หรือในบางครั้งระบบอาจใช้พลังงานจากทั้งสองแหล่ง เพื่อเสริมกำลังอัตราเร่งของรถยนต์

ในส่วนของตัวแบตเตอรี่ หลัก ๆ ระบบจะดึงพลังงานมาใช้ในช่วงที่รถออกตัวในระยะทาง 2 - 3 กิโลเมตรแรก จากนั้นจึงสลับกลับมาใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อน และเมื่ออยู่ในช่วงระหว่างรถติดหรือหยุดนิ่ง หากมีแบตเตอรี่มากพอ ระบบจะดึงไฟฟ้าจากแบตเตอรีมาใช้งานกับอุปกรณ์ภายในต่าง ๆ เช่น ไฟหน้ารถ แอร์รถยนต์ เครื่องเสียง โดยให้เครื่องยนต์หยุดทำงานชั่วขณะ  เพื่อลดการใช้น้ำมันและลดการปล่อยควันพิษ

2. รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊ก-อิน ไฮบริด | Plug-in Hybrid (PHEV)

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊ก-อิน ไฮบริดนี้ ระบบการทำงานจะมีความคล้ายคลึงกับรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด คือ ผสมผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ เพียงแต่สามารถเสียบชาร์จไฟแบตเตอรี่ได้เองจากที่บ้านหรือสถานีชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 4 - 5 ชั่วโมง ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้เมื่อแบตเตอรี่เต็ม 100% จะสามารถขับเคลื่อนได้ถึง 20 - 50 กิโลเมตรโดยประมาณ โดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันเลย และเมื่อแบตเตอรี่หมดลง ระบบจะสลับกลับมาใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเหมือนปกติดังเดิม

 

รถยนต์ไฟฟ้า “ไร้ควัน ไร้มลพิษแบบ 100 %”

รถยนต์ไฟฟ้า

3. รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบตเตอรี่ | Battery Electric Vehicle (BEV)

เป็นรถยนต์ไฟฟ้าประเภทที่ใช้มอเตอร์ในการขับเคลื่อนแบบ 100 % โดยไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงใด ๆ มาเกี่ยวข้อง จึงมั่นใจได้ว่ารถไฟฟ้าประเภทนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มีการปล่อยไอเสียออกมาจากตัวรถเลยแม้แต่นิดเดียว 

สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ในแต่ละครั้ง ใช้เวลาประมาณ 6 - 8 ชั่วโมง สำหรับการชาร์จปกติ หรือ 2 - 4 ชั่วโมง สำหรับการชาร์จผ่านแทนชาร์จเร็ว หลังจากชาร์จไฟเต็ม 100% แล้ว รถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้จะสามารถวิ่งได้สูงสุดประมาณ 300 กิโลเมตรเลยทีเดียว สำหรับใครที่ชอบเที่ยวต่างจังหวัดแบบระยะทางไม่ไกลมาก รถยนต์พลังงานไฟฟ้าประเภทนี้ถือว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สุด ๆ

4. รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง | Fuel Cell Electric Vehicle (FCEV)

โดยระบบการทำงานของรถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้ จะเป็นการส่งโฮโดนเจนเหลวและอากาศที่มีออกซิเจนอยู่ เข้าสู่แผงเซลล์เชื้อเพลิงหรือที่เรียกว่า Fuel Cell Stack เพื่อแปลงเป็นกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่ จากนั้นตัวมอเตอร์จะดึงเอากระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ เพื่อนำไปใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์ต่อไป

 

จากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานานของอุตสาหกรรมยานยนต์ ปัจจุบันเราจึงได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 4 แบบ ที่ผลิตออกมาเพื่อตอบโจทย์วัตถุประสงค์การใช้งานของผู้บริโภคและคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในแบบที่ค่อยเป็นค่อยไป โดยมีให้เลือกทั้งรถยนต์ไฟฟ้า 2 ระบบ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทำการคุ้นชินกับระบบของรถยนต์ไฟฟ้า ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้า ที่ไม่มีการใช้เครื่องยนต์และน้ำมันเชื้อเพลิงเลย เพื่อเป็นการช่วยลดมลพิษที่เกิดจากไอเสียรถยนต์ได้แบบ 100 %

น้ำมันเชื้อเพลิง

 

แต่สำหรับใครที่ยังคงใช้รถยนต์แบบเดิมหรือแบบที่ยังต้องเติมน้ำมันเชื้อเพลิง 100% อยู่ละก็ อย่าเพิ่งน้อยใจไป คุณสามารถช่วยลดมลพิษได้ แม้จะไม่เทียบเท่ากับการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็ตาม เพียงคุณหมั่นนำรถไปตรวจเช็กสภาพรถยนต์ให้พร้อมใช้งาน เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอยู่เป็นประจำ ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีมีคุณภาพ เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดไอเสียหรือควันดำจากรถยนต์ได้แล้ว

แพนด้า สตาร์ ออยล์ ยินดีให้บริการและจัดจำหน่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรค น้ำมันเชื้อเพลิง ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน โดยบริการครอบคลุมทุกพื้นที่ภาคเหนือทั้ง 9 จังหวัด เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ 


เกร็ดความรู้ที่เกี่ยวข้อง

รู้ไว้! เติมน้ำมันรถยนต์เองไม่ยากอย่างที่คิด
01 ต.ค. 2564

รู้ไว้! เติมน้ำมันรถยนต์เองไม่ยากอย่างที่คิด

สาระน่ารู้
จะดูแลรถอย่างไรเมื่อต้อง จอดรถทิ้งไว้นาน โดยไม่ใช้งาน
26 ม.ค. 2565

จะดูแลรถอย่างไรเมื่อต้อง จอดรถทิ้งไว้นาน โดยไม่ใช้งาน

สาระน่ารู้
ผู้ประกอบการเช็คให้ชัวร์! ถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง ที่เช่านั้นมีมาตรฐานหรือไม่?
27 ก.พ. 2565

ผู้ประกอบการเช็คให้ชัวร์! ถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง ที่เช่านั้นมีมาตรฐานหรือไม่?

สาระน่ารู้